เวียดนาม เป็นประเทศหนึ่งที่คุณต้องไปเที่ยวและสัมผัสซักครั้ง เป็นอีกหนึ่งประเทศในอาเซียนที่เราควรจะรู้จักไว้ เพราะที่นี่มีหลายๆที่ทำให้ประหลาดใจเยอะมาก เพื่อนแอดมินไปเวียดนามบอกเลยว่า "ถ้าข้ามถนนที่เวียดนามได้ ก็สามารถข้ามถนนได้ทุกเส้นบนโลก" เป็นเรื่องที่ตื่นตาตื่นใจ แต่ถือเป็นสาระดีๆ ถ้าทุกคนไปเที่ยวทำให้รู้เลยค่ะ
เรื่องนี้ทุกคนคงรู้ๆกันอยู่ว่า คนที่นี่ขับมอไซค์กันเยอะมากกกก เยอะจริงๆ เพราะรายได้ประชาชาติของพวกเขาต่อคนไม่ได้สูงเหมือนของคนไทย แต่ทักษะการขี่มอไซค์ของพวกเขาเก่งจริงไรจริง ซ้อนหลายคนไม่ใช่ปัญหา ขี่มอไซค์คู่คุยกันเหมือนเดินคุย แบกของใหญ่ๆแบบตู้เย็น กระจกบานใหญ่ หรือท่อยาวๆก็ทำได้!! แต่ที่เราชอบมากๆคือขี่มาคู่กันแล้วให้คันนึงเอาเท้ายันอีกคันนึงไว้แล้วไปด้วยกัน ประมาณว่าอีกคันได้ประหยัดน้ำมันไปเลย และที่พบเห็นบ่อยๆขายริมถนนก็จะมีผ้าปิดปากกับเสื้อกันฝน เพราะมลพิษเยอะแถมที่นี่ฝนตกบ่อย(โฮจิมิน)ก็จะหยุดมอไซค์ทันทีรีบใส่เสื้อกันฝนแล้วขับกันต่อไป
บีบแตรสะท้านโลกา
ใครที่เคยไปที่เวียดนามจะรับรู้ถึงเสียงแตรรถยนต์ตั้งแต่ออกมาจากแอร์พอร์ตเลยก็ว่าได้ บางคนที่มาอาจจะคิดว่าบีบแตรกันไปทำไม?? บีบกันจนเป็นหนึ่งในมลพิษทางเสียงเลย แถมแตรรถเมย์ยังมีเสียงแอคโค่อ่ะ- - ถ้าเป็นคนไทยบางคนอาจจะคิดว่าคงบีบแตรหาเรื่อง แต่ที่นี่ไม่ใช่นะ เขาบีบแตรแบบให้รู้ว่า"เห้ยตรูกำลังจะขับมานะ ระวังตรูด้วย"ไรงี้คะ
เดินข้ามถนนที่นี่ห้ามถอยหลังเด็ดขาด!!
ตามที่บอกเมื่อคุณตัดสินใจเหยียบลงพื้นมาแล้วต้องลุยอย่างเดียวคะ จะมายึกยักๆไม่ได้จะก้าวก็ก้าวไปเลย ถ้าข้ามถนนที่มีไฟบอกก็ดีหน่อย แต่ถ้าไม่มีก็มองรถนิดหน่อยแล้วเดินลงไปเลยคะ เดี๋ยวพวกเขาจะขี่หลบคุณเอง คนที่นี่เขาทักษะเยอะ เพราะที่นี่ไม่มีสะพานลอยข้ามถนน
คนเวียดนามกินหมาจริง
เขากินกันจริงๆแต่จะเป็นคนในภาคเหนือเท่านั้นอย่างฮานอยแต่ก็ไม่ได้กินกันทุกคน เพราะภาคเหนือใต้ที่นี่ต่างกันสุดขั้ว!! เหนือก็หนาว ใต้ก็ร้อน ซึ่งมันเป็นเฉพาะทางเหนือที่มีวัฒนธรรมการกินแบบนี้เพื่อที่จะแก้หนาวกัน
ตีห้าครึ่งสว่างแล้ว
ไม่ได้โม้แต่พระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นเร็วกว่าประเทศไทยเยอะคะ ซึ่งทำให้วิธีชีวิตของคนที่นี่ก็ต้องเริ่มเช้ากว่าเป็นธรรมดา
อย่าเดินเล่นโทรศัพท์ข้างถนน
ก็อย่างที่บอกว่าทักษะมอไซค์เขาสูง มีหลายรายไม่ว่าจะชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว หรือคนเวียดนามเอง โดนคนขี่มอไซค์ขี่ขึ้นฟุตบาตมาตบเอามือถือไปหรือไม่ก็กระชากเป๋าไปเลย ไม่ต้องถึงขนาดถนนเปลี่ยว หน้าห้างสรรพสินค้ายังกล้าฉกคะ ฉะนั้นเก็บมือถือแล้วเอากระเป๋าสะพายคล้องคอไม่ก็ใช้เป้เลยปลอดภัยสุด
คนไทยกินแหนมเนืองมาผิดตลอด!!
แผ่นแป้งแหนมเนืองที่เรากินกันแบบนิ่มๆมานั่นแหละคะที่ผิด เพราะว่าคนที่นี่เขากินแบบแห้งๆกัน คือแป้งที่เค้าใช้ห่อจะแห้งไม่ได้แช่น้ำก่อนเหมือนที่คนไทยกิน ใส่ผักกับเนื้อห่อม้วนๆคล้ายโรตีสายไหม เพราะว่าน้ำจากผักจะทำให้แป้งนุ่มๆนิดนึง แล้วค่อยจุ่มกับน้ำจิ้มแหนมเนืองคะ ขอบอกว่าอร่อยมากกก
สั่งน้ำที่นี่ต้องขอน้ำแข็ง
คุณไม่มีทางได้กินน้ำแข็งแน่นอนถ้าคุณไม่บอกเขา เพราะที่ไทยแค่พูดน้ำเปล่า ชา บลาๆๆ ก็จะเอาน้ำแข็งมาให้ด้วย แต่ที่นี่คุณต้องพูด"ด๊า"(น้ำแข็ง)ด้วย ไม่งั้นอด เช่น จ๋า-ด๊า=ชากับน้ำแข็ง แล้วที่นี่เขานิยมกินชามากกว่าน้ำเปล่า บางร้านถึงกับไม่มีน้ำเปล่าขายเลย
คนอ้วนที่นี่หาได้ยาก
คนที่นี่เค้าหุ่นดีกันจริงๆ แล้วถ้าคุณเป็นสาวโอเวอร์เวทเจ้าเนื้อเตรียมโดนมองได้เลย เพราะคนที่นี่เขาจะกินผักกันส่วนใหญ่ สังเกตุจากร้านอาหารที่เวียดนามไม่ว่าจะเป็นอาหารประเทศอะไรก็ตามจะมีผักเยอะเสมอ
ห้างสรรพสินค้า
จะบอกว่าห้างที่นี่ยังไม่เยอะเป็นดอกเห็ดเหมือนไทย ฉะนั้นอย่าหวังจะซื้อของได้เยอะที่นี่ แล้วคุณต้องเข้าใจว่าประเทศเข้ากำลังพัฒนา ตอนนี้ประเทศของเขาก็ไม่ต่างจากไทยเมื่อ10-20ปีก่อน แล้วที่นี่ไม่ค่อยมีร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนในห้างเหมือนบ้านเรา เอาง่ายๆก็คือห้างที่นี่ไม่ค่อยน่าเดินเท่าบ้านเราคะ แต่ชุปเปอร์มาร์เก็ตที่นี่ถ้ากระเป๋าใหญ่ต้องฝากอันนี้เป็นซุปเปอร์ทุกห้างเลย ถ้าเป๋าใหญ่ไปเขาจะไม่ให้เข้าเเล้วฝากตู้ด้านหน้าเป็นล็อกเกอร์ ต้องเอาเป๋าตังออกมาด้วยนะไม่งั้นไม่มีตัง หรือถ้าใครไม่ฝากก็จะเอาถุงมาครอบแล้วซิลค์ไม่ให้เราเปิดกระเป๋าได้
ซื้อของที่นี่ต้องรู้ภาษาเวียดติดตัว
จริงๆคะเพราะคนที่นี่ก็ไม่ได้พูดอังกฤษเก่งซะเท่าไหร่ ก็ยังมีบางร้านพอพูดได้บ้าง แต่ก็ต้องรู้ติดตัวไว้คะ เพราะบางทีอาจจะโดนแม่ค้าโกงได้ง่ายถ้าเป็นชาวต่างชาติไรงี้
หนุ่มสาวที่โฮจิมินห์ชอบเดินเล่นสวนสาธารณะ
เป็นสวนสาธารณะใกล้ๆโบถส์นอร์ทเธอดาม ส์ช่วงเย็นก็เริ่มมากันแล้วคะ คนมากันเยอะมากๆ มาร่วมกันเป็นเดอะแก๊งใหญ่ๆ เป็นกลุ่มเล็กๆไม่ก็เป็นคู่ แล้วก็จะมีป้าๆมาเดินขายหนังสือพิมพ์ไว้ปูนั่งที่พื้น แล้วก็มีหาบเล่ขายของกินเล็กๆน้อยๆ นั่งกันบางทีสองทุ่มก็ยังอยู่กันคะ ราวกับว่าที่นี่เป็นจุดรวมวัยรุ่นมล้ายคล้ายสยามสแควร์บ้านเรา
สวีทกันบนมอไซค์
จอดมอไซค์ข้างถนนที่ใกล้สวนสาธารณะหรือแม่น้ำหน่อยแล้วก็จู๋จี๋กันบนมอไซค์เลยคะ บางคู่ก็จุ๊บๆกัน บางคู่ก็นั่งเล่นกันบนหญ้า คือแบบกลางวันหรือกลางคืนก็ไม่แคร์คะ คนไทยไปเจออาจจะตกใจกันได้ แต่จะเจอะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
เรื่องของแท็กซี่
คือแท็กซี่ที่นี่ไม่ชอบไปส่งคนแบบใกล้ๆคะ แบบใกล้ๆไม่รับขึ้นรถเลย เพราะค่าแท็กซี่เริ่มต้นมาก็ประมาณ17บาทไทย (มันมีหลายบริษัทแท็กซี่คะราคาเริ่มจะต่างกัน) ถ้าไปไม่ไกลบางทีมีการอ้อมทางด้วย ทางที่ดีถ้าไม่อยากถูกปฏิเสธคือขึ้นรถไปเลยแล้วค่อยบอกที่ๆจะไปทีหลัง แต่เวลาบอกต้องบอกที่อยู่นะคะแบบเบอร์เลขที่ ชื่อถนน บางคนมันไม่รู้จักสถานที่คะ
ที่นี่ไม่มีเหรียญ
ตามนั้นคะ เพราะที่นี่ค่าเงินอ่อนกว่าไทยอยู่มากกกก แบบถ้าจะซื้อของที่ก็ตัด.000ที่แบงค์ออกแล้วคูณ1.5ก็จะได้เป็นเงินไทย ซึ่งแบงค์1000ที่นี่ก็ประมาณ1.50บาทบ้านเรา ใช้เงินที่นี่ทีเป็นล้านด่องคะ คหสต.เราคิดว่าแบงค์ที่นี่เหมือนแบงค์กาโม่สุดๆอ่ะ ถึงเงินเขาจะอ่อนกว่าก็ใช่ว่าค่าครองชีพเขาถูกนะ แพงกว่าไทยอีก โดยรวมแล้วของต่างๆแพงกว่าบ้านเรา ขนาดเฝอ(ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม)ชามนึงก็ร้อยกว่าบาทแล้วคะ
กระดาษทิชชู่เปียกที่นี่ถูกกว่าไทยเยอะ
แพ็กเล็กที่นี่แพ็กละสิบกว่าบาทเองอ่ะ และที่ถูกก็เพราะว่าไลฟสไตล์ของคนที่นี่คะ ก็เหมือนคนไทยที่พกทิชชู่แพ็กเล็กๆติดตัว แต่คนที่นี่พกทิชชู่เปียก แล้วทุกร้านอาหารไม่ว่าจะริมถนน หรือในห้างก็จะเอาทิชชู่เปียกมาให้เช็ดก่อนเสมอคะ
คำไทยบางคำอย่าไปพูดที่นี่
ศัพท์ไทยบางคำก็ออกเสียงตรงกับคำบางคำของเวียดนาม อย่าง "หมึก"ที่แปลว่าปลาหมึกออกเสียงและแปลเหมือนกันคะ แต่จะมีสองสามที่เรารู้มาแล้วไม่ควรพูดคะคือ
"ไก่"=เนื้อหมา(พูดไปมีสิทธิโดนหัวราะใส่เลยคะในโฮจิมินห์) , "คง"=บ้า, "งู"=โง่
คนเวียดนามชอบของไทย:)
ไม่ว่าจะเป็นข้าวไทย น้ำผลไม้ เครื่องปรุง มาม่า ขนม หรือของอุปโภคต่างๆ ในทุกๆซุปเปอร์มาร์เก็ตจะต้องมีของไทยขายอยู่ด้วย เพราะคนที่นี่เขามองว่าของเมด อิน ไทยแลนด์นี่เป็นของที่ดีมากๆ แล้วรู้มั้ย คนที่นี่ชอบพี่มากพระโขนงอย่างแรงงง ถึงกับมีแฟนเพจพี่มากเวียดนามเลยที